Great Wall of China เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่ถูกกล่าวถึงมาช้านาน ด้วยเพราะกำแพงเมืองจีนมีอายุกว่า 2,500 ปี ก่อนเล่าเรื่องนี้ก็ขอสวัสดีเพื่อนๆชาว NightTiger ทุกคน เช่นเคยนะคะ สำหรับวันนี้เราจะพาทุกคนไปเยือนแดนมังกรที่มีประวัติศาสตร์และความเป็นมาอันยาวนาน ทั้งในเรื่องของขนบธรรมเนียมประเพณี ความเชื่อ วัฒนธรรมและสถาปัตยกรรม โดยเฉพาะสิ่งก่อสร้างที่ถูกยกให้เป็นมรดกและสิ่งมหัศจรรย์ของโลกอย่าง กำแพงเมืองจีน
ประวัติความเป็นมาของกำแพงเมืองจีน
กำแพงเมืองจีน ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ก่อนสมัยของจิ๋นซีฮ่องเต้ เป็นการสร้างโดยก๊กหรือแคว้นต่างๆ ตามเขตชายแดน เพื่อป้องกันการรุกรานของชาวฮั่นหรือชนเผ่าเร่ร่อนบนหลังม้า โดยเฉพาะในสมัยราชวงศ์ฉินที่ถูกรุกรานอย่างหนักจนกลายเป็นไม้เบื่อไม้เมาและเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างกำแพงเมืองจีนอย่างจริงจัง จนกระทั่งในสมัยจิ๋นซีฮ่องเต้ ราว 221 ปีก่อนคริสตกาล เริ่มมีการสร้างป้อมและแนวกำแพงเชื่อมต่อกันจากแคว้นสู่แคว้น จนกลายเป็นกำแพงยาวหนึ่งเดียว รวมระยะทางในตอนนั้นได้ 5,000 กิโลเมตร
ว่ากันว่าลักษณะของกำแพงเมืองจีนนั้นเหมือนกับมังกร ซึ่งเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์และทรงพลังอำนาจ ทั้งยังมีพลังปกป้องคุ้มครองอีกด้วย โดยในยุคต่อๆ มามีการต่อเติมและเสริมความแข็งแกร่งให้กับกำแพงเมืองจีนอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังสร้างขึ้นใหม่เรื่อยๆ จนกลายเป็นกำแพงที่ยาวที่สุดในโลก รวมความยาวทั้งสิ้น 21,196.18 กิโลเมตร ปัจจุบันกำแพงเมืองจีนได้รับคัดเลือกให้เป็นมรดกโลกและเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลางและยุคใหม่
เยือนแดนมังกร ชมความยิ่งใหญ่ของ กำแพงเมืองจีน
สำหรับใครที่อยากไปสัมผัสกับความยิ่งใหญ่ของกำแพงเมืองจีนด้วยตัวเองนั้น ก่อนอื่นขออธิบายก่อนว่า ด้วยระยะทางกว่า 2 หมื่นกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ถึง 15 มณฑล จุดท่องเที่ยวกำแพงเมืองจีนจึงมีหลายแห่ง โดยแบ่งเป็นด่านต่างๆ ซึ่งด่านที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ได้แก่ ด่านปาต้าหลิ่ง เนื่องจากเป็นด่านที่อยู่ใกล้เมืองปักกิ่งมากที่สุด การเดินทางสะดวกสบาย ที่สำคัญมีรถรางและกระเช้าลอยฟ้าให้บริการ แม้จะสะดวกในเรื่องของการเดินทาง แต่ด่านนี้คนเยอะพอสมควร ทำให้หามุมถ่ายภาพยากนั่นเอง
สำหรับด่านอื่นๆ ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน ได้แก่ ด่านมู่เถียนยวี่ เป็นอีกด่านที่อยู่ใกล้กรุงปักกิ่ง มีกระเช้าลอยฟ้าอำนวยความสะดวก แต่คนไม่มาก วิวสวย สามารถเก็บภาพความประทับใจได้แบบจุใจแน่นอน ต่อมาคือด่านซือหม่าไถ เป็นด่านที่มีจุดชมวิวสวยที่สุด ด่านหวงฮวาเฉิง หรือกำแพงน้ำ อยู่ติดริมเขื่อน สวยงามด้วยวิวทิวทัศน์แม่น้ำและภูเขา เป็นอีกด่านที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน เพราะให้บรรยากาศแตกต่างไปจากด่านอื่นๆ ส่วนใครที่อยากเห็นปลายสุดกำแพงเมืองจีนต้องมาที่ด่านซานไห่กวน เป็นด่านสุดท้ายที่อยู่ติดทะเล
สัมผัสกลิ่นอายแห่งวัฒนธรรมจีนที่ Great Wall of China
นอกจากด่านต่างๆ ที่เราได้กล่าวมานี้ ยังมีอีกหลายด่านที่ได้รับความนิยมเช่นกัน แต่ละด่านมีรูปแบบของกำแพงเมืองจีนที่แตกต่างกัน ซึ่งเป็นผลมาจากการบูรณะซ่อมแซม รวมทั้งวิวทิวทัศน์ก็ให้ความสวยงามแตกต่างกันตามเขตที่ตั้ง ขอแนะนำเพิ่มเติมว่า การเดินทางไปยังด่านต่างๆ ใช้เวลานานพอสมควร บางด่านใช้เวลากว่า 2 – 3 ชั่วโมง ยิ่งไกลยิ่งใช้เวลาในการเดินทางมากตามไปด้วย คงต้องยก 1 วันให้ทริปกำแพงเมืองจีน แต่รับรองว่าคุ้มค่าสำหรับเวลาที่เสียไปอย่างแน่นอน
ดังนั้น หากใครวางแผนจะไปเที่ยวกำแพงเมืองจีน หลังจากวางแผนท่องเที่ยวแล้ว อย่าลืมเตรียมร่างกายให้พร้อม แล้วไปเก็บภาพสวยๆ ของ Great Wall of China ท่ามกลางขุนเขาด้วยกัน ในบทความหน้าอยากให้เรานำบทความไหนมาฝากกันอีก ติดตามกันไว้ได้เลยนะคะ พบกันใหม่บทความหน้ากับ NightTiger สวัสดีค่ะ
สามารถชมประวัติความเป็นมาของกำแพงเมืองจีนได้ที่ : https://www.youtube.com/watch?v=IR6yG_WrFyA&t=0s
แหล่งที่มาของภาพ :
https://reporter.mk/wp-content/uploads/2020/06/272e813f50ef0f5623bfeaba3189712e-768×511.jpg
https://images7.alphacoders.com/737/737537.jpg
https://images3.alphacoders.com/692/692371.jpg
บทความที่คุณอาจสนใจ Christ the Redeemer ชมรูปปั้นพระเยซูคริสต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก